Company Equity 25 Apr 2024, 19:28

CPF (BUY) – ฟื้นตัวแบบ L-shaped –Target Price Bt21.00, Price Bt18.20


เนื่องจากการปรับการผลิตที่ช้าและอุปสงค์ที่อ่อนแอ ส่งผลให้ราคาเนื้อหมูของจีนเลวร้ายลงมากกว่าที่คาดไว้ ซึ่งทำให้เราปรับลดประมาณการกำไรลงในช่วงสามปีข้างหน้า เนื่องจากราคาหุ้นแตะจุดต่ำสุด หนุนโดยมูลค่าบริษัทในเครือที่ 20 บาท/หุ้น เราจึงยังคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมายลดลงเหลือ 21 บาท

ราคาเนื้อหมูในจีนตกต่ำยาวนาน

เนื่องจากการระบาดของไข้หวัดหมูแอฟริกัน (ASF) ที่บรรเทาลงในกลางปี 2021 ราคาเนื้อหมูของจีนดิ่งลงจากจุดสูงสุดที่มากกว่า CNY35/กิโลกรัม ในปี 2020 เหลือต่ำกว่า CNY20/กิโลกรัม ใน 2H21 และอยู่บริเวณจุดต่ำสุดที่ CNY14-15/กิโลกรัม เป็นเวลาเกือบสามปี ราคาเนื้อหมูที่ซบเซาเป็นเวลานาน ซึ่งเกินกว่าช่วงฟื้นตัวปกติที่ 18-24 เดือน ซึ่งมีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการผลิตเนื้อหมูในจีน หลังจากการระบาดของ ASF ได้เกิดการรวมตัวของอุตสาหกรรมเข้าด้วยกัน โดยบริษัทสุกรขนาดใหญ่ให้ความสำคัญกับการขยายและส่วนแบ่งตลาดมากกว่าการเพิ่มผลกำไรสูงสุด แม้ว่าเราเชื่อว่าราคาเนื้อหมูของจีนได้มาถึงจุดต่ำสุดแล้ว แต่การปรับตัวที่ช้าของอุปทานชี้ให้เห็นว่าราคาที่ฟื้นตัวจะต้องมาพร้อมกับอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคคาดว่าจะดีขึ้นไปอีก ด้วยนโยบายสนับสนุนของรัฐบาลในช่วงครึ่งปีหลัง เราจึงคาดว่าส่วนแบ่งขาดทุนจาก CTI จะน้อยลงเหลือ 2 พันลบ. ในปี 2024 และคาดว่ากำไรจะฟื้นตัวเล็กน้อยตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป

แรงหนุนจากเวียดนาม ไก่ และบริษัทร่วม

ราคาเนื้อหมูของเวียดนามทรงตัวเหนือระดับ VND50,000/กิโลกรัม เนื่องจากแนวโน้มทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น และสถานการณ์อุปทานล้นตลาดที่รุนแรงน้อยลง ราคาไก่ดีดตัวขึ้นแข็งแกร่งและอยู่สูงกว่าต้นทุนวัตถุดิบถึง 16% การฟื้นตัวนี้เกิดจากการบริหารจัดการอุปทาน และความต้องการที่เพิ่มขึ้นทั้งในประเทศและการส่งออก นอกจากนี้เรายังคาดว่าจะมีส่วนแบ่งกำไรที่สูงขึ้นจากบริษัทในเครือ รวมถึง CPALL และ CPAXT บทวิเคราะห์ของบล. ธนชาต คาดว่า CPALL และ CPAXT จะมีกำไรเติบโตกว่า 20% หนุนโดยการขยายสาขาแบบสแตนด์อโลน อัตรากำไรของสินค้าที่เพิ่มขึ้น และส่วนแบ่งตลาดที่เพิ่มขึ้น บริษัทฯ ยังได้ประโยชน์จากนโยบายประชานิยมของรัฐบาลอีกด้วย

ปรับลดกำไร และราคาเป้าหมายเหลือ 21 บาท

เนื่องจากการฟื้นตัวของ CTI ที่ล่าช้า อัตรากำไรที่ลดลง และดอกเบี้ยจ่ายที่เพิ่มขึ้น เราจึงปรับประมาณการกำไรของ CPF ลง เราคาดว่าจะมีกำไรจาก 2H24F และปัจจุบันคาดว่ากำไรจะลดลงเหลือ 3.3 พันลบ. ในปี 2024F 8.5 พันลบ. ในปี 2025F และ 15.3 พันลบ. ในปี 2026F รวมราคาเป้าหมายที่ 70 บาท สำหรับ CPALL และ 33 บาท สำหรับ CPAXT ราคาเป้าหมาย SOTP-derived ของ CPF จะลดลงเป็น 21 บาท จาก 24.5 บาท

ผ่านจุดต่ำสุดแล้ว แนะนำ “ซื้อ”

ด้วยผลจาก CTI เราจึงคาดว่าจะมีผลขาดทุนต่อเนื่องใน 1H24F ซึ่งถือว่าแย่กว่าที่เราคาดไว้ แต่ก็ไม่เปลี่ยนแปลงมุมมองของเราที่ว่า CPF ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว หลังจากราคาหุ้นลดลง 27% จากปีที่แล้ว 83% ของหุ้น CPF ได้รับแรงหนุนจากบริษัทในเครือ ได้แก่ CPALL และ CPAXT โดยมีมูลค่า 20 บาท ด้วยทั้งสองบริษัทมีแนวโน้มที่ดีขึ้น และ CPF มีผลขาดทุนที่ลดลง เราจึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน……

รายงานฉบับภาษาไทย Thai Version

รายงานฉบับภาษาอังกฤษ English Version