Equity Industries 24 Apr 2024, 23:22

Construction Sector (OVERWEIGHT) – ประมูลทางด่วนส่วนต่อขยายช่วงจตุโชติ-ถนนลำลูกกา  มูลค่า 2 หมื่นลบ.


  • วันนี้เป็นวันยื่นซองประมูล และ…
  • …จะทราบผู้เสนอราคาต่ำสุดในช่วงสิ้นวัน
  • ผู้มีศักยภาพในการชนะประมูลคือหนึ่งในสี่ผู้รับเหมารายใหญ่
  • CK เป็น Top Sector Pick ของเรา และเรายังให้คำแนะนำ “ซื้อ” STEC   

News Update

  • วันนี้เป็นวันยื่นซองประมูลทางด่วนฉลองรัช ส่วนต่อขยายช่วงจตุโชติ-ถนนลำลูกกา  มูลค่า 2 หมื่นลบ. เนื่องจากเป็นกระบวนการประมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ จึงน่าจะทราบผู้เสนอราคาต่ำสุดในช่วงสิ้นวัน
  • เนื่องจากเป็นทางด่วนยกระดับในกรุงเทพฯ ที่มีมูลค่าสูง คุณสมบัติของผู้รับเหมาจึงสูง และเราเชื่อว่าผู้ชนะคือ 1 ใน 4 ผู้รับเหมารายใหญ่ ได้แก่ บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD, Unrated), บมจ. ช.การช่าง (CK, “ซื้อ”), บมจ. ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น (STEC “ซื้อ”) และบมจ. ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (UNIQ, Unrated)
  • การประมูลโครงการโครงสร้างพื้นฐานครั้งต่อไป คือ รถไฟทางคู่ขอนแก่น-หนองคาย มูลค่า 2.9 หมื่นลบ. ซึ่งมีกำหนดประกาศ TOR และเปิดประมูลในเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม 2024
  • การดำเนินโครงการโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาลอีกครั้งหลังจากที่ถูกระงับในช่วงวิกฤตโควิด-19 ในปี 2020-22 ถือเป็นข่าวดีสำหรับกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง เราคาดว่ารัฐบาลจะเริ่มดำเนินโครงการโครงสร้างพื้นฐานมูลค่า 5.36 แสนลบ. อีกครั้ง ในปี 2024-26F (ดูบทวิเคราะห์กลุ่มรับเหมาก่อสร้างของเรา “กำไรมีแนวโน้มดีขึ้น” วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2024) เรายังคงให้น้ำหนักลงทุนเป็น “OVERWEIGHT” กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง
  • CK เป็น Top Sector Pick ของเรา โดยมีราคาเป้าหมายที่ 26 บาท/หุ้น เนื่องจากมีการเติบโตของกำไรอย่างมั่นคงในอีกอย่างน้อยสี่ปีข้างหน้า เนื่องจาก 1) มูลค่า Backlog ที่สูงเป็นประวัติการณ์ที่ 1.3 แสนลบ. ณ สิ้นปี 20232) มีงานใหม่ที่มีศักยภาพสูงจาก โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกมูลค่า 1.09 แสนลบ. 3) การฟื้นตัวของกำไรที่แข็งแกร่งของบริษัทร่วม และ 4) มีมูลค่าที่น่าสนใจ โดยหุ้นซื้อขายที่ระดับที่มีส่วนลด 35% จากมูลค่าตลาดของพอร์ตการลงทุนและได้ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างฟรี
  • เราให้คำแนะนำ “ซื้อ” STEC ราคาเป้าหมายที่ 12 บาท/หุ้น เนื่องจากเราเชื่อว่ากำไรได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ขณะที่ราคาหุ้นลดลง 27% จากจุดสูงสุดในปีก่อนไปแล้ว เราคาดว่ากำไรจะเติบโต 10/15% y-y ในปี 2024-25F โดยได้แรงหนุนจาก 1) การรับรู้รายได้ที่สูงขึ้นจาก Backlog 6.9 หมื่นลบ. ณ สิ้นปี 2023 2) งานใหม่ที่มีศักยภาพสูงจากโครงการขยายสนามบินอู่ตะเภามูลค่า 2.7 หมื่นลบ. และ 3 ) อัตรากำไรฟื้นตัวจากการที่โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสีเหลืองที่มีอัตรากำไรต่ำแล้วเสร็จ

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน……

รายงานฉบับภาษาไทย Thai Version

รายงานฉบับภาษาอังกฤษ English Version