HMPRO (BUY) – ขยาย Mega Home เต็มอัตรา – Target Price Bt18.50, Price Bt14.00

HMPRO มีแผนเปิดตัว Mega Home ในต่างจังหวัดเต็มอัตราภายในปีนี้ โดยตั้งเป้าระยะกลางไว้ที่ 50 สาขา ด้วยแผนนี้ เราจึงปรับราคาเป้าหมายขึ้น 3% เป็น 18.5 บาท คงคำแนะนำ “ซื้อ” ด้วยเป็นหุ้นที่ขยับช้าในกลุ่มฯ และมี EPS เติบโตแข็งแกร่งเฉลี่ยที่ 16% ในปี 2023-25F
คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 18.5 บาท
แม้จะปรับกำไรลง 2-3% ในปี 2023-26F สะท้อนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่สูงขึ้นจากค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้นและค่าใช้จ่ายในการขยายสาขา แต่เราปรับเพิ่มกำไรขึ้น 4% ต่อปี จากปี 2027F โดยส่วนใหญ่เป็นกำไรที่เพิ่มขึ้นจาก Mega Home เนื่องจากสมมติฐานการเปิดสาขาที่เร็วขึ้น ด้วยเป็นหุ้นที่ขยับช้า (laggard play) ในกลุ่มค้าปลีก โดยราคาหุ้นลดลง 10% YTD และคาดว่าจะยังคงมีกำไรสูงเป็นประวัติการณ์ในปีนี้ ด้วย EPS คาดว่าเติบโตแข็งแกร่งเฉลี่ย 3 ปีที่ 16% เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” HMPRO ปรับราคาเป้าหมายเพิ่มขึ้น 3 % เป็น 18.5 บาท จากเดิม 18.0 บาท HMPRO ซื้อขายที่ 26 เท่า ในปี 2023 ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีที่ 33 เท่า
Mega Home ปัจจัยผลักดันกำไรตัวใหม่
เนื่องจากการระบาดของโควิดบรรเทาลง และยังมีโอกาสในการขยายร้านจำหน่ายสินค้าวัสดุก่อสร้าง ซ่อมแซม ปรับปรุง ตกแต่งบ้านทั้งในเขตหลักและเขตรองในต่างจังหวัด HMPRO จึงเร่งขยายสาขา Mega Homeในปีนี้จำนวน 8 สาขาใหม่ ด้วยมี 18 สาขาในปีที่แล้ว เราคาดว่า Mega Homeสร้างกำไรให้ 571 ลบ. หรือ 9% ของกำไรปี 2022 เนื่องจากแผนที่จะเปิดสาขามากถึง 50 แห่งภายในปี 2029 เราจึงปรับเพิ่มจำนวนสาขาทั้งหมดจาก 33 แห่ง เป็น 50 แห่ง และคาดว่าจะมีกำไร 6 เท่าจากปัจจุบันเป็น 3.3 พันลบ. ในปี 2029F หรือคิดเป็นสัดส่วนกำไร 21%
กลยุทธ์การขายใหม่สำหรับร้าน HomePro
แม้ว่าร้าน HomePro รูปแบบในเมืองจะอิ่มตัวแล้ว แต่บริษัทฯ มีแผนที่จะเปิด 1-2 สาขา ต่อปี จาก 87 สาขาในปีที่แล้ว นอกเหนือจากช่องทางออนไลน์ที่เริ่มในช่วงโควิด โดยมีสัดส่วนยอดขายที่ 6.2% ในปี 2022 แล้ว ในปีนี้บริษัทฯ ยังจะขยายฐานลูกค้าไปยังลูกค้า B2B และลูกค้า C+ และต่ำกว่านั้น ด้วยโครงการสินเชื่อ HomePay นอกจากนี้ยังจะสร้าง ecosystem สำหรับผลิตภัณฑ์และบริการด้วยการนำเสนอการซ่อมแซมผลิตภัณฑ์ การแลกเปลี่ยน และการขายต่อเพื่อเพิ่มการตัดสินใจซื้ออย่างรวดเร็ว ในช่วง YTD ยอดขายสาขาเดิมเติบโตดีกว่าคู่แข่งที่ 5-6%
คาด EPS เติบโตเฉลี่ยที่ 16% ในปี 2023-25F
ขณะที่กำไรในปีที่แล้วกลับมาอยู่ที่ระดับก่อนเกิดโรคระบาดในปี 2019 ที่ 6.2 พันลบ. เราคาดว่า EPS แข็งแกร่งเติบโตเฉลี่ย 3 ปีที่ 16% จาก 1) ธุรกิจ HomePro และรายได้ค่าเช่าพื้นที่เช่า 149,000 ตร.ม. คาดว่าจะมีกำไรเติบโตเฉลี่ย 12% จากสาขาใหม่, ยอดขายสาขาเดิมเติบโต 5% ต่อปี, อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจากสัดส่วนยอดขายเฮ้าส์แบรนด์ที่เพิ่มขึ้นจาก 20.8% ในปี 2022 เป็น 22.9 % ในปี 2025F และรายได้ค่าเช่าเติบโตเฉลี่ย 11% จากอัตราการเช่าที่สูงขึ้น และส่วนลดค่าเช่าที่ลดลง 2) กำไรของ Mega Home เติบโตแข็งแกร่งจาก 571 ลบ. ในปี 2022 เป็น 1.5 พันลบ. ในปี 2025F โดยได้แรงหนุนจากจำนวนสาขาที่เพิ่มขึ้นสองเท่าจาก 18 แห่ง เป็น 36 แห่ง ยอดขายสาขาเดิมที่เติบโต 2-3% ต่อปี และอัตรากำไรขั้นต้นที่ขยายตัวจากผลประโยชน์จากขนาด และสัดส่วนเฮาส์แบรนด์ที่สูงขึ้นจาก 17% เป็น 20% 3) ธุรกิจในมาเลเซียไม่เป็นตัวฉุดอีกต่อไปเนื่องจากธุรกิจพลิกกลับมามีกำไรในปีที่แล้ว จาก HomePro 7 สาขาที่นั่น
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน……