IMF ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP 2023F เพิ่มขึ้นเป็น 2.9% (เดิม 2.7%) และ GDP 2022F เพิ่มขึ้นเป็น 3.4% (เดิม 3.2%) จาก

1) การเปิดประเทศของจีนที่เร็วกว่าคาด จะเป็นตัวหนุนเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว

2) เงินเฟ้อที่ผ่าน peak แล้ว และคาดเงินเฟ้อโลกปรับตัวลดลงเหลือ 6.6%/4.3% ในปี 2023-24F

3) เศรษฐกิจโลกแม้จะอ่อนตัวแต่ไม่ได้แย่อย่างที่คาด จาก GDP 3Q22  ของหลายประเทศอย่าง สหรัฐฯ ยุโรป และ Emerging Market ที่ดีกว่าคาด

โดย IMF ปรับ GDP โลกและรายประเทศหลักๆ ดังนี้

• GDP โลก ปีนี้โต 2.9% (เดิม 2.7%) ปี 2024 โต 3.1% (เดิม 3.2%)
• GDP สหรัฐฯ ปีนี้โต 1.4% (เดิม 1%) ปี 2024 โต 1% (เดิม 1.2%)
• GDP ยูโรโซน ปีนี้โต 0.7% (เดิม 0.5%) ปี 2024 โต 1.6% (เดิม 1.8%)
• GDP จีน ปีนี้โต 5.2% (เดิม 4.4%) ปี 2024 โต 4.5% (ไม่เปลี่ยน)
• GDP ASEAN-5 ปีนี้โต 4.3% (เดิม 4.5%) ปี 2024 โต 4.7% (เดิม 4.9%)

หากเปรียบเทียบประเทศหลักๆ กลุ่ม Emerging Market ถูกปรับ GDP ขึ้นหนุนโดยการเปิดประเทศของจีน แม้ ASEAN-5 ( Indonesia, Malaysia, Philippines, Thailand, Vietnam) คาด GDP ชะลอตัวลงเล็กน้อยแต่ก็สามารถเติบโตได้ดีกว่าเศรษฐกิจโลก

ขณะที่ความเสี่ยงที่ต้องจับตามองในปีนี้ คือ การควบคุมการระบาดโควิดในจีนหลังจากเปิดประเทศ, ความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน, การควบคุมเงินเฟ้อ, การใช้นโยบายตรึงตัวของธนาคารการทั่วโลก รวมถึงหนี้สาธารณะ

สำหรับประเทศไทย เรายังคาดว่าหุ้นกลุ่มที่มีรายได้อิงกับการท่องเที่ยวและบริโภค จะสามารถทนทานต่อความผันผวนของตลาดโลกได้ดี และกำไรมีแนวโน้มที่จะ Outperform ต่อเนื่อง