Company Equity 9 May 2022, 22:15

TTB (BUY) – มีปัจจัยขับเคลื่อนภายในที่แข็งแกร่งขึ้น – Target Price Bt1.45, Price Bt1.21


เรายังคงแนะนำ “ซื้อ” TTB แต่ปรับลดประมาณการกำไร และราคาเป้าหมายเป็น 1.45 บาท สะท้อนค่าใช้จ่ายและต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น การใช้ synergy value เพื่อรับมือผลกระทบจากโควิดที่มีต่อคุณภาพสินทรัพย์ TTB ได้แก้ไข NPL ในเชิงรุก กันสำรองยังคงลดลง ขณะที่เราคาดว่าการฟื้นตัวของรายได้จะหนุนให้กำไรเติบโตเฉลี่ย 3 ปีที่ 15%

สินเชื่อฟื้นตัว

หลังจากลดความเสี่ยงของพอร์ตสินเชื่อโดยใช้สินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดใหญ่เพื่อเติมเต็ม liquidity gap และลดการให้สินเชื่อ SMEs อย่างมีนัยสำคัญ สินเชื่อของ TTB ก็หดตัวลงตั้งแต่ควบรวมกิจการกับธนาคารธนชาตในปี 2019 ธนาคารเริ่มมีสินเชื่อรายย่อยกลับมาเติบโต และให้สินเชื่อเพื่อการพาณิชย์ที่มีความเสี่ยงต่ำเพื่อใช้สภาพคล่องส่วนเกินให้เกิดประโยชน์ การเติบโตของสินเชื่อกลายเป็นบวกที่ 1.9% q-q และ 1.6% YTD ใน 2Q22 การเติบโต q-q ที่แข็งแกร่งใน 2Q22 มาจากการเติบโตของสินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดใหญ่ที่ 5% สินเชื่อจดจำนองและเช่าซื้อรถยนต์ 0.9/0.5% และ สินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล 5.5/1.5% สิ่งที่ธนาคารเน้นยังคงเป็นเช่าซื้อรถยนต์, สินเชื่อจดจำนอง และสินเชื่อส่วนบุคคล โดยตั้งเป้าการเติบโตของสินเชื่อที่มากกว่า 2% ในปีนี้

ตั้งสำรองที่ต่ำลงชดเชยผลของอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น

ด้วย 29% ของสินเชื่อเป็นสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์อัตราดอกเบี้ยคงที่ และ 5% เป็นสินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลซึ่งถูกกำหนดเพดานอัตราดอกเบี้ยสูงสุด TTB จึงไม่น่าจะสามารถปรับอัตราดอกเบี้ยตามแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นได้อย่างเต็มที่ เราคาดว่าการเพิ่มขึ้นของ lending yield จะชะลอตัวลง แต่คาดว่าต้นทุนทางการเงินจะเพิ่มขึ้นจาก 0.57% ในปี 2022F เป็น 0.73% ในปี 2023F และ 0.91% ในปี 2024F เราคาดว่าการหตัวลงของ NIM ของธนาคารจะได้รับการชดเชยด้วย credit costs ที่ลดลงจากการควบคุม NPL ได้ดี และมีตั้งสำรองที่สูง เนื่องจากมากกว่าครึ่งหนึ่งของพอร์ตโฟลิโอเป็นสินเชื่อที่มีหลักประกัน เราจึงเชื่อว่า TTB สามารถมีอัตราส่วน loan loss coverage น้อยกว่า 130%

ปรับลดกำไร และราคาเป้าหมายลงเหลือ 1.45 บาท

เนื่องจากมีการทำธุรกรรมที่มากขึ้นและกิจกรรมทางธุรกิจเพิ่มขึ้น เราจึงคาดว่าค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานจะเพิ่มขึ้นอย่างมากจาก 2H22 เนื่องจากการลงทุนด้านดิจิทัลที่เพิ่มขึ้น และค่าใช้จ่าย incentive และค่าใช้จ่ายทางการตลาดที่เพิ่มขึ้น เราปรับสมมติฐาน OPEX ขึ้นโดยเฉลี่ย 4% ในปี 2023-25F เมื่อรวมกับต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้นตามที่กล่าวข้างต้น เราจึงปรับลดกำไรลงโดยเฉลี่ย 5% ในปี 2022-25F เนื่องจากเราปรับมาใช้ปีฐาน 2023F ราคาเป้าหมายของเราจึงลดลงเป็น 1.45 บาท จากเดิมที่ 1.5 บาท

คงคแนะนำ “ซื้อ”

ราคาหุ้นของ TTB เกือบทรงตัว YTD, outperforming กลุ่มฯ เล็กน้อย 4% เรามองว่า valuation ไม่แพง ซื้อขายที่ระดับที่มีส่วนลด 30% ขึ้นไป เมื่อเทียบ P/BV และ PE เฉลี่ยห้าปีที่ 0.8 เท่า และ 11.6 เท่า เนื่องจากการตั้งสำรองที่ลดลงและสินเชื่อกลับมาเติบโต TTB น่าจะสามารถลดความเสี่ยงในการปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ล่าช้าได้ และมี EPS เติบโตเฉลี่ย 3 ปี (ปี 2021-24F) แข็งแกร่งที่ 15% เนื่องจากไม่มีการกำหนดเพดานเงินปันผลจ่าย และมีเงินกองทุนที่ดี เราคาดว่าธนาคารจะจ่ายเงินปันผลเพิ่มขึ้น เราคาดว่าอัตราผลตอบแทนปันผลอยู่ที่ 4.2% ในปีนี้ และ 4.6% ในปี 2023F

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน……

รายงานฉบับภาษาไทย Thai Version

รายงานฉบับภาษาอังกฤษ English Version