Economics Market Strategy 9 May 2022, 22:02

Siam Senses –  การเติบโตเร่งตัวขึ้น    


เราคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีขึ้นใน 2H22F โดยได้แรงหนุนจากการบริโภคที่แข็งแกร่งและการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยว เรายังคงชอบกลุ่มธนาคาร กลุ่มพลังงาน และกลุ่มที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว ขณะที่เพิ่มกลุ่มที่เกี่ยวกับการบริโภคและนิคมอุตสาหกรรม

การบริโภคแข็งแกร่งหนุนการปรับเพิ่ม GDP

เราเชื่อว่าเศรษฐกิจไทยจะเร่งตัวขึ้นใน 2H22F และปรับเพิ่มประมาณการการเติบโตของ GDP ในปีนี้เป็น 3.2% จาก 3.0% ซึ่งหมายความว่าการเติบโตของ GDP ใน 2H22F อยู่ที่ 4.0% เทียบกับตัวเลขใน 1H22 ที่ 2.4% การปรับขึ้นของเราส่วนใหญ่เกิดจากการบริโภคภายในประเทศที่แข็งแกร่ง อันเนื่องมาจากแรงการควบคุมแรงกดดันด้านเงินเฟ้อได้ดี อัตราการว่างงานที่ลดลง และความเป็นไปได้ที่จะมีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ (น่าจะมีผลในวันที่ 1 ตุลาคม) สำหรับปีหน้า เราคงคาดการณ์การเติบโตของ GDP ไว้ที่ 4.0% เนื่องจากการเติบโตของการบริโภคที่แข็งแกร่งขึ้นชดเชยอัตราการเติบโตของการท่องเที่ยวที่ลดลง (ผลกระทบจากฐานที่สูง)

การท่องเที่ยวยังคงเป็นปัจจัยหนุนหลัก การลงทุนฟื้นตัว

การฟื้นตัวของการท่องเที่ยวยังคงเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทย และมีแนวโน้มเร่งตัวขึ้นใน 2H22F นักท่องเที่ยวที่มายังไทยในเดือนกรกฎาคม และสิงหาคมจนถึงปัจจุบันเฉลี่ยอยู่ที่ 1.2-1.3 ล้านคนต่อเดือน ซึ่งเท่ากับเกือบ 40% ของระดับก่อนเกิดโรคระบาด ขณะที่การเติบโตอาจไม่เร่งตัวขึ้นในเดือนกันยายน/ตุลาคม (เนื่องจากช่วงนอกฤดูท่องเที่ยว) เราเชื่อว่าจำนวนนักท่องเที่ยวที่มายังไทยจะเกิน 1.5 ล้านคน หรืออาจถึง 2.0 ล้านคนต่อเดือนในเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม อีกภาคส่วนที่เราคาดว่าจะเติบโตแข็งแกร่งขึ้นใน 2H22F คือการลงทุนซึ่งลดลงใน 2Q22 เนื่องจากการเดินทางเพื่อธุรกิจกลับมา และกิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว เราคิดว่าการลงทุนของภาคเอกชนจะยังคงเร่งตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง การลงทุนภาครัฐ (ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันสำคัญ) มีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวเช่นกันเมื่อเราเข้าใกล้สิ้นปีงบประมาณ

กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากเงินทุนไหลเข้า

นอกจากเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มดีขึ้น เราคิดว่าปัจจัยขับเคลื่อนในระยะสั้นสำหรับตลาดอีกประการคือเงินทุนไหลเข้า เดือนสิงหาคมจนถึงปัจจุบัน ตลาดหุ้นไทยมีเงินทุนไหลเข้าจากต่างประเทศที่แข็งแกร่งกว่า 4.2 หมื่นลบ. ซึ่งทำให้เงินทุนไหลเข้ารวมใน YTD อยู่ที่มากกว่า 1.60 แสนลบ. ขณะที่ระดับการถือครองหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศก็เพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2017 ในอดีตกลุ่มที่ได้ประโยชน์สูงสุดจากเงินทุนไหลเข้า ได้แก่ กลุ่มพลังงาน กลุ่มสถาบันการเงิน และกลุ่มที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว ซึ่งเราคิดว่าในครั้งนี้น่าจะมีแนวโน้มที่คล้ายกัน

เพิ่มหุ้นที่เกี่ยวกับการบริโภค, IEs เข้าพอร์ต

เราได้ทำการเปลี่ยนหุ้น Top Pick ของเราหลายตัว ขณะที่เรายังคงมองบวกต่อธนาคารโดยรวม แต่เราเอา KTB ออก แต่ยังคง KBANK และ BBL ไว้ในพอร์ต เนื่องจากเราคิดว่าทั้งสองธนาคารน่าจะได้ประโยชน์จากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีขึ้น เรายังคงหุ้นกลุ่มพลังงาน – BANPU และ ESSO ไว้ แต่นำ SCC ออก เนื่องจากเรากำลังเข้าสู่ช่วงที่มีความต้องการต่ำ ซึ่ง สเปรดอาจดีขึ้นได้อย่างจำกัด เรายังคงมองบวกต่อหุ้นที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว AOT และ CENTEL แต่เอา BDMS ออกจากพอร์ต เนื่องจากเราเห็น upside จากราคาหุ้นที่จำกัด นอกจากนี้เรายังเอา CBG ออก เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการส่งออกและต้นทุนอลูมิเนียมที่สูงขึ้น เราเพิ่ม CPALL และ BEC ซึ่งได้ประโยชน์จากการบริโภคและการปรับขึ้นค่าแรง และสุดท้ายนี้ เราเพิ่ม AMATA และ WHA ด้วยได้ประโยชน์จากการเติบโตที่แข็งแกร่งของการลงทุน

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน……

รายงานฉบับภาษาไทย Thai Version

รายงานฉบับภาษาอังกฤษ English Version