Company Equity 9 May 2022, 21:41

JMT (BUY) – การร่วมทุนกับ KBANK – Target Price Bt100.00, Price Bt76.25


  • จัดตั้งบริษัทร่วมทุน (50:50) มูลค่าลงทุน 1 หมื่นลบ. กับ KBANK…
  • …โดยตั้งเป้าซื้อ NPL สูงถึง 1 แสนลบ. ในปี 2025
  • คาดจะมีกำไรตั้งแต่การดำเนินงานในปีแรก
  • เรายังไม่ได้รวมบริษัทร่วมทุนในประมาณการของเรา

News update:

KBANK และ JMT ประสบความสำเร็จในการจัดตั้ง JVAMC, JK (50:50) โดยทุนเริ่มต้น 1.0 หมื่นลบ. ด้วยได้เงินจาก RO และวอร์แรนต์ ประมาณ 1.4 หมื่นลบ. JMT สามารถจัดหาเงินลงทุน 5 พันลบ. โดยใช้กระแสเงินสดภายใน JK ได้ซื้อ NPL จำนวน 3 หมื่นลบ. จาก KBANK แล้วในเดือนมิถุนายน และคาดว่าจะซื้ออีก 2 หมื่นลบ. ในปีนี้ ในช่วงสามปีข้างหน้า กล่าวคือในปี 2025 JK ตั้งเป้าที่จะมี NPL ภายใต้การบริหารสูงถึง 1.0 แสนลบ.

  • ตามหลักเกณฑ์ของ JVAMC บริษัทร่วมทุนมีเวลา 15 ปี ในการจัดการกับ NPLs ที่ซื้อมา อย่างไรก็ตาม เราไม่คิดว่า JMT มองว่านี่เป็นเพียงโครงการชั่วคราว บริษัทฯ มองว่าดีลนี้จะมาซึ่ง J-curve ใหม่ของกลุ่ม ด้วยมาพร้อมโอกาสในการทำ cross-selling ที่อาจเกิดขึ้นกับ JMART ซึ่งเป็นบริษัทแม่ซึ่งเป็นบริษัทโฮลดิ้ง
  • สำหรับภาพโดยรวม JK จะได้รับ NPL ใหม่ส่วนใหญ่มาจาก KBANK ซึ่งเป็นลูกค้าหลักของ JMT เป็นเวลา 15 ปี JMT น่าจะยังคงเข้าร่วมในการประมูลแบบเปิดของธนาคารอื่นๆ แต่มีแนวโน้มว่าการเข้าซื้อ NPL ใหม่จะผ่านทาง JK เป็นหลัก ในขณะที่ JMT จะยังคงเก็บเกี่ยวผลตอบแทนจากการลงทุนที่ผ่านมา ณ 1Q22 JMT ได้ลงทุนรวม 2.6 หมื่นลบ. และมี NPLs ภายใต้การบริหาร 2.43 แสนลบ.
  • JMT ได้ประโยชน์อย่างไร?
  • ด้วยมุ่งที่จะแบ่งปันทรัพยากรของทั้งสองฝ่าย JK น่าจะมีค่าใช้จ่ายคงที่เพียงเล็กน้อย ดังนั้น JMT เชื่อว่า JK สามารถทำกำไรได้ในปีแรกของการดำเนินงาน ในขณะที่ JMT น่าจะได้รับค่าธรรมเนียมการบริหารจัดการเป็นประจำจาก JK
  • ด้วยอัตราการได้รับชำระคืนเมื่อเกิดการผิดนัดชำระหนี้ (Recovery rate) เฉลี่ยของ KBANK จากการจัดการภายใน และการประมูลอยู่ที่ 1-9% สำหรับ NPLs ที่ไม่มีหลักประกัน และ 40-57% สำหรับ NPLs ที่มีหลักประกัน และความจริงที่ว่าอายุลูกหนี้ (vintage) เฉลี่ยของ 3.0 หมื่นลบ. เหล่านี้ไม่เก่าเท่ากับที่ JMT ได้มาจากการประมูล เราคาดว่าต้นทุนลงทุนอยู่ที่ 8 พันลบ. สำหรับธุรกรรมการซื้อ NPL มูลค่า 3 หมื่นลบ. แรก ซึ่งคิดเป็นต้นทุนการได้มาที่ 27% ของมูลค่าที่ตราไว้สำหรับ NPL ซึ่งเป็น NPL ที่มีหลักประกันและไม่มีหลักประกันในอัตราส่วน 33:67
  • ต้นทุนการเข้าซื้อสูงกว่าที่ JMT จ่ายไปก่อนหน้านี้ แต่ ROI คาดว่าจะสอดคล้องกับที่ JMT ทำได้สำเร็จ ขณะที่เราเชื่อว่าอัตราการเก็บเงินสดอาจเร็วกว่า เนื่องจากอายุลูกหนี้ของสินเชื่อใหม่กว่า และมี synergies กับ KBANK
  • หากใช้การรับรู้รายได้ที่ผ่านมาของ JMT และใช้เป้าอัตรากำไรสุทธิสำหรับบริษัทร่วมทุนที่ 20-30% เราคาดว่าผลกำไรของบริษัทร่วมทุนสำหรับการลงทุนชุดแรกจำนวน 3 หมื่นลบ. อยู่ที่ 100-150 ลบ. ในปี 2023 และกำไรน่าจะมากขึ้นเป็น 300-450 ลบ. ในปี 2026 เนื่องจากคืนทุนเฉลี่ยในอดีตของ JMT อยู่ที่  3-5 ปี
  • นอกจากนี้เรายังคาดว่า JMT จะได้รับค่าธรรมเนียมการบริหารจัดการจากบริษัทร่วมทุน สำหรับธุรกิจทวงถามหนี้ของ JMT จะเรียกเก็บค่าคอมมิชชั่นจากเงินกู้ยืมที่เรียกเก็บได้สำเร็จ รายได้จากการเก็บหนี้ของ JMT อยู่ที่ 230 ลบ. ในปีที่แล้ว จากยอดหนี้คงค้างจำนวน 3.15 หมื่นลบ. ซึ่งหมายถึงค่าธรรมเนียมการเรียกเก็บประมาณ 1% เราสมมติให้ค่าธรรมเนียมการบริหารจัดการอยู่ที่ 0.5% ของ NPL คงค้างมูลค่า 3 หมื่นลบ.ของบริษัทร่วมทุน ซึ่งจะช่วยเพิ่มกำไรหลังหักภาษีได้ 120 ลบ. นอกเหนือจาก equity income  50-75 ลบ. จากบริษัทร่วมทุน ประเมินคร่าวๆ บริษัทร่วมทุนจะทำให้มี upside ราว 6-7% จากประมาณการกำไรของเราในปี 2023
  • ในเชิงกลยุทธ์ การทำงานร่วมกันช่วยให้ JMT เข้าถึงโปรไฟล์ลูกหนี้ของ KBANK ได้ดีขึ้น จึงสามารถขยายฐานลูกค้าจากปัจจุบันที่มี 4 ล้านคน และคาดว่าจะสามารถทำ cross sell ผลิตภัณฑ์สินเชื่ออื่นๆ ของกลุ่ม JMART ให้กับลูกค้าเหล่านี้ในอนาคตได้
  • เรายังคงชอบบริษัทร่วมทุน และเห็น upside ต่อประมาณการของเรา เนื่องจากเรายังไม่ได้รวมการร่วมทุนในประมาณการของเรา ด้วยเงินสดในมือที่มีอยู่จำนวนมาก เราจึงมองว่า JMT ได้รับผลกระทบน้อยที่สุดจากแนวโน้มดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ดูเหมือนว่าจะได้ประโยชน์จากการขาย NPL ที่ไหลเข้ามาจากตั้งแต่ 2H22 เนื่องจากโครงการช่วงเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากโควิดสิ้นสุดลง
  • ด้วยการรับรู้กำไรที่จะหนักไปช่วงหลังของปี เราจึงคาดว่าเรื่องราวของกำไรจะน่าตื่นเต้นมากขึ้นในช่วง 2H22

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน……

รายงานฉบับภาษาไทย Thai Version

รายงานฉบับภาษาอังกฤษ English Version